วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560
วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560
วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560
3 ขั้นตอนดาวน์โหลดเอกสาร ลงทะเบียนคนจนรอบ 2
ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้เปิดโอกาสให้ คนที่มีรายน้อยลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือ จากทางรัฐบาล ในรอบที่ 2 ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียน กันในห้วงตั้งแต่ วันที 3 เม.ย. - 15 พ.ค.60 นี้
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจ ผมจึงได้นำวิธีการและขั้นตอนในการลงทะเบียนมาแบ่งปัน ให้กับทุกคนได้ทราบ โดยการลงทะเบียนคนมีรายได้น้อย รอบที่ 2 นี้ มีวิธีการดำเนินการง่ายๆ เพียง 3 ขั้น ดังนี้
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจ ผมจึงได้นำวิธีการและขั้นตอนในการลงทะเบียนมาแบ่งปัน ให้กับทุกคนได้ทราบ โดยการลงทะเบียนคนมีรายได้น้อย รอบที่ 2 นี้ มีวิธีการดำเนินการง่ายๆ เพียง 3 ขั้น ดังนี้
1.การขอและดาวน์โหลดแบบฟอร์มลงทะเบียน
ผู้ลงทะเบียนในโครงการฯ สามารถขอแบบฟอร์มลงทะเบียนได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา ธนาคารออมสินทุกสาขา ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา คลังจังหวัด ทุกจังหวัด และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครฯ ทุกเขต รวมทั้งสิ้น 3,669 หน่วยรับลงทะเบียน ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง www.mof.go.th , สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง www.fpo.go.th , อีเปย์เม้นท์ www.epayment.go.th และเว็บไซต์ของหน่วยรับลงทะเบียนทั้ง 5 หน่วยงานข้างต้น
2.การทำความเข้าใจและกรอกแบบฟอร์ม
ผู้ลงทะเบียนควรศึกษาแบบฟอร์มให้เข้าใจ และเตรียมเอกสารหลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ในการกรอกแบบฟอร์มให้พร้อม เช่น บัตรประจำตัวประชาชนของตนเอง เลขบัตรประจำตัวประชาชนของบิดา มารดา และบุตร สมุดทะเบียนบ้าน ทะเบียนผู้พิการ ทะเบียนเกษตรกร เลขที่บัญชีเงินฝาก นอกจากนี้ ต้องสำรวจว่าตนมีรายได้ เงินฝาก และหนี้สินเท่าใด เป็นต้น หลังจากนั้น ให้กรอกแบบฟอร์มให้ครบถ้วน ชัดเจน และถูกต้องตามความเป็นจริง และผู้ลงทะเบียนควรตรวจสอบความถูกต้องก่อนลงนามรับรองความถูกต้องและยินยอมให้เปิดเผยและตรวจสอบ
3.การมาลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
ผู้ลงทะเบียนต้องมาลงทะเบียนด้วยตัวเอง โดยการยื่นแบบฟอร์มที่กรอกครบถ้วนถูกต้องแล้วพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อยืนยันตัวตนและข้อมูลที่กรอกให้ทางราชการ ได้ทางหน่วยรับลงทะเบียน เช่น ธนาคาร ธกส. ธ.ออมสิน ธ.กรุงไทย หรือสำนักงานเขตที่เปิดรับลงทะเบียน รวมทั้งสิ้น 3,669 แห่งทัวประเทศ ในกรณี ผู้พิการและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางได้ ต้องมีใบมอบอำนาจมาแสดงในวันลงทะเบียน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะกรอกข้อมูลของผู้มาลงทะเบียนเข้าระบบ หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว ผู้ลงทะเบียนต้องรับเอกสารหลักฐาน (ส่วนท้ายของแบบฟอร์ม) กลับไป เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าการลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์
รู้แล้วรีบเตรียมตัวกันด่วนเลยนะครับเดี๋ยวจะพลาดโอกาสเอา ไม่มีชื่อไม่มีสิทธิ์ นะ
#ขอบคุณที่ติดตาม
#pairoj13
***ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า
วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560
วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560
วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560
หลักคิดในการสร้างธุรกิจ
สวัสดีครับ....ทุกท่าน บทความนี้ผมมีหลักคิดในการสร้างธุรกิจของตัวเองมาแบ่งปัน กันนะครับ มันเป็นหลักคิดที่ผมใช้เปรียบเทียบการทำธุรกิจ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าผมยังไม่ใช้คนที่ประสบความสำเร็จอะไรในการทำธุรกิจนะครับ ผมเองยังเป็นผู้เริ่มต้นเหมือนกัน อาจจะเหมือนกับหลายท่าน ที่ได้อ่านบทความนี้อยู่ ผมเคยได้ลองทำธุรกิจมาบ้างครับ ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็น ธุรกิจเครือข่าย เพราะธุรกิจประเภทนี้ ลงทุนไม่สูง หรือ แทบไม่ต้องลงทุนเลย ความเสี่ยงก็ค่อนข้างต่ำ มันเหมาะกับคนที่ต้องการจะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองแต่ไม่มีทุน คงจะมีหลายคนเกิดความสงสัยนะครับ ว่าผมยังไม่ประสบความสำเร็จอะไร แล้วมาบอกคนอื่นเขาทำไม ก็อย่าพึ่งตั้งคำถามนะครับ ลองอ่านสิ่งที่ผมนำมาแบ่งปันก่อนว่ามีประโยชน์รึเปล่า หากมันไม่เกิดประโยชน์ กับท่านผู้อ่านก็ไม่ต้องเอามาใส่ใจ แต่ถ้ามันมีประโยชน์ก็ช่วยแบ่งปันให้คนอื่นได้รับรู้ด้วย เพราะสิ่งที่ผมนำมาให้นั้นได้จากประสบการณ์ที่ผมได้ลองทำธุรกิจมา ผมได้เก็บเกี่ยวเอาความรู้ หลักการ และวิธีการ มาได้พอสมควร บวกกับการที่ได้ศึกษาเรียนรู้จากสื่อต่างๆ เพิ่มเติม ลองผิดลองถูก ด้วยตัวเอง ก็พอจะมีความรู้อยู่พอสมควร สามารถที่จะแบ่งปันให้กับคนอื่นได้
หลักการทำธุรกิจที่ผม จะเอามาแบ่งปันนั้น เรียกว่า เป็นการสรุปแก่นของธุรกิจจริงๆ ตามความคิดผม
ซึ่งผมจะเปรียบเทียบ ให้เข้าใจได้ง่าย ดังต่อไปนี้ครับ
"การทำธุรกิจ ก็เหมือน การทำกับข้าว นี่แหละครับ"
*ก่อนที่เราจะเริ่มต้นทำอาหาร เราก็จะต้องเตรียมของที่จะนำมาทำกันก่อน เปรียบเป็นการทำธุรกิจ ก็คือ เราต้องเริ่มต้นศึกษาหาความรู้ในธุรกิจที่เราต้องการจะทำให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อน แล้วเริ่มวางแผน
*ขั้นตอนต่อไปของการทำอาหาร คือ การนำเอาวัตถุดิบมาประกอบกันตามวิธีการเป็นขั้นเป็นตอน ใส่อะไรก่อน ใส่อะไรที่หลัง เปรียบกับการ ทำธุรกิจ ก็คือ เริ่มลงมือทำธุรกิจ ตามแผนการที่เราเตรียมไว้
*เมื่อนำวัตถุดิบต่างๆ มาประกอบกันแล้ว เราก็ต้องใส่เครื่องปรุงลงไป แล้วก็ชิมอาหารว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม จืด ถ้ามันขาดหรือมันเกินอะไรไปเราก็ต้องหาวิธีแก้ไขให้รสชาติมันอร่อย การปรุงและชิมอาหาร ก็เปรียบได้ กับการใส่งบประมาณลงไปในธุรกิจ แล้วเริ่มต้นทำ เมื่อทำไปได้ระยะหนึ่งเราก็ต้องมาตรวจสอบว่า อะไรคือปัญหาในธุรกิจของเรา อะไรที่เราต้องปรับปรุง เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เมื่อเจอปัญหา เราก็ต้องมาแก้ไข โดยต้องเริ่มจากปัญหาที่สำคัญที่สุด และ เป็นปัญหา เร่งด่วนก่อน ซึ่งขั้นตอนนี้ เราจะไม่สามารถ คาดเดาได้เลยว่ามันจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับธุรกิจของเราถ้าเราเอาแต่นั่งมโน ไม่ได้ลงมือทำมันจริงๆ
*เมื่อเราปรับปรุงแก้ไขรสชาติทุกอย่างได้ลงตัวแล้ว ผลลัพท์ที่ออกมา คือ อาหารจานนี้อร่อย ทุกคนชอบในรสชาติ ก็เหมือนกับธุรกิจของเราประสบความสำเร็จ นั่นเอง
คงจะพอเข้าใจในสิ่งที่ผมอธิบายนะครับ ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็ลองไปทำอาหารกินเองดู ซึ่งอาจจะมีหลายคนที่ไม่เคยทำอาหาร เลยไม่เข้าใจวิธีการทำ ซื้อแต่แกงถุงมากิน หรือ ไปกินตามร้าน 555 ผมคิดว่าทุกธุรกิจมันไม่มีสูตรสำเร็จ ตายตัวหรอกครับ คนที่ได้ลงมือทำเท่านั้นถึงจะรู้วิธีการ ทุกอย่างมันต้องเริ่มต้นจากตัวเราก่อน หากตัวเราไม่พัฒนา ต่อให้มีธุรกิจที่ดีขนาดไหน ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ อย่างที่ผมเคยลองๆทำมา
มีกูรูคนดังหลายๆท่านในโลกออนไลน์ ที่ได้ออกมาให้ความรู้ เรื่องการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและการพัฒนาตัวเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ผมก็ได้มีโอกาสเข้าไปฟัง เข้าไปศึกษาที่ ท่านอาจารย์หลายท่านได้ให้ความรู้ไว้ ตามสื่อต่างๆ Facebook ,Youtube ก็พอจะสรุปวิธีการหาธุรกิจที่ใช้ สำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้น
ยังไง ดังนี้ครับ
1.คนหาตัวเองให้เจอก่อน = เราต้องรู้ว่า เรารัก หรือ ชอบอะไร หรือ ถนัดอะไร ก่อน วิธีการก็คือว่า ลองค้นหาและตั้งคำถาม กับตัวเอง ดูว่า ทำอะไรแล้วมีความสุข สามารถอยู่กับสิ่งนั้น ได้นานๆ โดยไม่เบื่อ และคุณมีความถนัดในเรื่องนั้นๆ
**ตย. ผมเป็นคนชอบฟุตบอล เวลา ผมได้อยู่กับเรื่องราวที่เกี่ยวกับฟุตบอล ผมจะอยุ่กับมันได้นานเป็นวันๆ อาจจะมีเบื่อบ้างบางครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาดูมันเหมือนเดิม อะไรประมาณนี้
2.เมื่อคุณเจอในสิ่งที่คุณรักแล้ว คุณต้องพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตัวเองรักและถนัด ให้เกิดเป็นความเชี่ยวชาญ
**ตย. ผมเป็นคนที่ชอบคิดชอบวิจารณ์ฟุตบอล และมักจะเอาความคิดของตัวเองไปพูดให้คนอื่นฟัง แต่บ้างครั้งสิ่งที่ผมพูด เขาก็อาจจะไม่ชอบหรือไม่พอใจ ผมจึงนำมันมาเขียนในบล็อก เพื่อเป็นการระบายความคิดของผมออก เผื่อมีคนอื่นที่มีความเห็นตรงกันเขาอยากอ่าน โดยสมัครใจ และผมก็ไม่ได้ไปยัดเยียดให้ใคร เมื่อผมคิดได้ว่าผมจะต้องเขียนมันออกมา แต่ผมไม่มีทักษะเรื่องการ ทำเว็ป การเขียนบล็อก ผมจะต้องทำยังไง ผมก็เลยศึกษาหาความรู้ ด้านการทำบล็อกและการเขียน ด้วยการศึกษาผ่านสื่อออนไลน์ ด้วยการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้น เพื่อศึกษาสำนวนข้อความต่างๆ ที่นักเขียนเขาใช้ อย่างนี้เป็นต้นครับ
3.เริ่มสร้างคุณค่าให้ผู้คน โดยใช้ความถนัดที่ตัวเองมี เช่น เปิดเพจสอนทำอาหาร ทำขนม เป็นต้น
4.นำสิ่งที่ รักและถนัด มาเปลี่ยนเป็นเงิน อธิบายก่อน รัก และ ถนัด มีความต่างกันอยู่นะครับ บางอย่างเราอาจมีความรักแต่ไม่ถนัดที่จะทำ บางอย่างเรามีความถนัดแต่ไม่ได้รักมันก็มี แต่ถ้าเราสามารถนำเอาทั้งสองอย่างมารวมกันได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นคุณจะประสบความสำเร็จแน่นอนครับ เห็นได้จาก ตย.คนที่ประสบความสำเร็จหลายคน เขาทำในสิ่งที่ถนัดจนกลายเป็นความรักในที่สุด ไปศึกษาต่อดูได้ตาม YouTube ครับ เมื่อเริ่มมีคนติดตามก็สามารถ เปิดครอสสอน หรือ ทำเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาขาย
"อธิบายเพิ่มเติ่ม"
**เปลี่ยนเป็นเงินยังไง ยุคนี้เรียกว่าเป็นยุคที่เงินหาได้ง่ายมากๆ ครับเพียงแต่เราต้องรู้วิธีการเอามันมาใส่กระเป๋าเรา ยิ่งผมได้ศึกษาเรื่องธุรกิจเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้รู้ว่า มันมีเรื่องราวเกี่ยวกับการทำเงิน อีกมากมายที่เรายังไม่รู้ เงินมันลอยอยู่ในอากาศและมันจะวิ่งเข้ามาคนที่มี ทักษะ หรือ ความถนัดเฉพาะครับ ถ้าลองสังเกตุ ใน Facebook คุณจะเห็นอาชีพหนึ่งเกิดขึ้นและกำลังเป็นที่นิยม ในต้อนนี้ครับ มันคือ อาชีพเป็นโค้ช เปิดครอส สอนออนไลน์ จะเห็น คุณครู หลายท่าน ออกมา Live สอนกัน จนบางทีผมก็งง ไม่รู้จะฟังคนไหนดี เพราะครู เยอะจริงๆครับ ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นครูได้หมด ครับตอนนี้ ขอให้คุณมีทักษะและความเชี่ยวชาญในเรื่องที่คนมีปัญหาเถอะ รับรองขายได้
**ตย.ใช้ความถนัดเปลี่ยนเป็นเงิน
1.โค้ชสอนเรื่องต่างๆ เช่น สอนการตลาดออนไลน์ ,การทำอาหาร ,การเย็บปัก
2.งานรับจ้างอิสระ (ฟรีแลนซ์) เช่น ถ่ายภาพ ,เขียนบทความ,ทำกราฟฟิค ดีไซด์
3.เปิดเพจ เฟกบุ๊ค แก้ปัญหาให้คนอื่น ถ้าเพจมีคนติดตามเยอะ สามารถมีรายได้จากค่าโฆษณา จากคนที่เขามาจ้างคุณได้
4.เมื่อมีคนรู้จัก ก็สามารถต่อยอดไปทำธุรกิจอื่นได้
5.ลงทุนทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เช่น ขายของออนไลน์ ,ขายเครื่องสำอาง เสื้อผ้า หรือ ทำขนม ทำอาหาร ขายออนไลน์
6.ต่อยอดจากความรักความถนัด มาเป็นธุรกิจ 100 ล้าน, พันล้าน
ทุกขั้นตอนที่ผมกล่าวมา สำคัญที่สุด คือ คุณต้องกล้า ที่จะลงมือทำ อาจจะล้มบ้าง เจ็บบ้าง ไม่เป็นไร แต่ขอให้เริ่มต้นทำ ออกจากโซนปล่อยภัยของตัวเองให้ได้ เราอาจจะก้าวช้ากว่าคนอื่น ก็ไม่เป็นไร ผมชื่อว่า ความสำเร็จมีจริง และ ผมก็เชื่อว่าทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน
ขณะที่คุณกำลังอ่านบทความของผมอยู่ในตอนนี้ ผมอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จอะไร แต่ผมมีความเชื่อเสมอว่า ผมจะต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน อาจช้า 5 ปี 10 ปี ก็เป็นได้ แต่มันจะต้องสำเร็จ แล้วเราจะเจอกันเมื่อวันนั้นมาถึง พบกันที่ความสำเร็จนะครับทุกคน
"ขอให้ทุกคนมีความฝัน และพยายามทำความฝันให้มันเป็นความจริง นะครับ"
#ขอบคุณที่ติดตาม
#Pairoj13
หลักการทำธุรกิจที่ผม จะเอามาแบ่งปันนั้น เรียกว่า เป็นการสรุปแก่นของธุรกิจจริงๆ ตามความคิดผม
ซึ่งผมจะเปรียบเทียบ ให้เข้าใจได้ง่าย ดังต่อไปนี้ครับ
"การทำธุรกิจ ก็เหมือน การทำกับข้าว นี่แหละครับ"
*ก่อนที่เราจะเริ่มต้นทำอาหาร เราก็จะต้องเตรียมของที่จะนำมาทำกันก่อน เปรียบเป็นการทำธุรกิจ ก็คือ เราต้องเริ่มต้นศึกษาหาความรู้ในธุรกิจที่เราต้องการจะทำให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อน แล้วเริ่มวางแผน
*ขั้นตอนต่อไปของการทำอาหาร คือ การนำเอาวัตถุดิบมาประกอบกันตามวิธีการเป็นขั้นเป็นตอน ใส่อะไรก่อน ใส่อะไรที่หลัง เปรียบกับการ ทำธุรกิจ ก็คือ เริ่มลงมือทำธุรกิจ ตามแผนการที่เราเตรียมไว้
*เมื่อนำวัตถุดิบต่างๆ มาประกอบกันแล้ว เราก็ต้องใส่เครื่องปรุงลงไป แล้วก็ชิมอาหารว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม จืด ถ้ามันขาดหรือมันเกินอะไรไปเราก็ต้องหาวิธีแก้ไขให้รสชาติมันอร่อย การปรุงและชิมอาหาร ก็เปรียบได้ กับการใส่งบประมาณลงไปในธุรกิจ แล้วเริ่มต้นทำ เมื่อทำไปได้ระยะหนึ่งเราก็ต้องมาตรวจสอบว่า อะไรคือปัญหาในธุรกิจของเรา อะไรที่เราต้องปรับปรุง เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เมื่อเจอปัญหา เราก็ต้องมาแก้ไข โดยต้องเริ่มจากปัญหาที่สำคัญที่สุด และ เป็นปัญหา เร่งด่วนก่อน ซึ่งขั้นตอนนี้ เราจะไม่สามารถ คาดเดาได้เลยว่ามันจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับธุรกิจของเราถ้าเราเอาแต่นั่งมโน ไม่ได้ลงมือทำมันจริงๆ
*เมื่อเราปรับปรุงแก้ไขรสชาติทุกอย่างได้ลงตัวแล้ว ผลลัพท์ที่ออกมา คือ อาหารจานนี้อร่อย ทุกคนชอบในรสชาติ ก็เหมือนกับธุรกิจของเราประสบความสำเร็จ นั่นเอง
คงจะพอเข้าใจในสิ่งที่ผมอธิบายนะครับ ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็ลองไปทำอาหารกินเองดู ซึ่งอาจจะมีหลายคนที่ไม่เคยทำอาหาร เลยไม่เข้าใจวิธีการทำ ซื้อแต่แกงถุงมากิน หรือ ไปกินตามร้าน 555 ผมคิดว่าทุกธุรกิจมันไม่มีสูตรสำเร็จ ตายตัวหรอกครับ คนที่ได้ลงมือทำเท่านั้นถึงจะรู้วิธีการ ทุกอย่างมันต้องเริ่มต้นจากตัวเราก่อน หากตัวเราไม่พัฒนา ต่อให้มีธุรกิจที่ดีขนาดไหน ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ อย่างที่ผมเคยลองๆทำมา
มีกูรูคนดังหลายๆท่านในโลกออนไลน์ ที่ได้ออกมาให้ความรู้ เรื่องการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและการพัฒนาตัวเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ผมก็ได้มีโอกาสเข้าไปฟัง เข้าไปศึกษาที่ ท่านอาจารย์หลายท่านได้ให้ความรู้ไว้ ตามสื่อต่างๆ Facebook ,Youtube ก็พอจะสรุปวิธีการหาธุรกิจที่ใช้ สำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้น
ยังไง ดังนี้ครับ
1.คนหาตัวเองให้เจอก่อน = เราต้องรู้ว่า เรารัก หรือ ชอบอะไร หรือ ถนัดอะไร ก่อน วิธีการก็คือว่า ลองค้นหาและตั้งคำถาม กับตัวเอง ดูว่า ทำอะไรแล้วมีความสุข สามารถอยู่กับสิ่งนั้น ได้นานๆ โดยไม่เบื่อ และคุณมีความถนัดในเรื่องนั้นๆ
**ตย. ผมเป็นคนชอบฟุตบอล เวลา ผมได้อยู่กับเรื่องราวที่เกี่ยวกับฟุตบอล ผมจะอยุ่กับมันได้นานเป็นวันๆ อาจจะมีเบื่อบ้างบางครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาดูมันเหมือนเดิม อะไรประมาณนี้
2.เมื่อคุณเจอในสิ่งที่คุณรักแล้ว คุณต้องพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตัวเองรักและถนัด ให้เกิดเป็นความเชี่ยวชาญ
**ตย. ผมเป็นคนที่ชอบคิดชอบวิจารณ์ฟุตบอล และมักจะเอาความคิดของตัวเองไปพูดให้คนอื่นฟัง แต่บ้างครั้งสิ่งที่ผมพูด เขาก็อาจจะไม่ชอบหรือไม่พอใจ ผมจึงนำมันมาเขียนในบล็อก เพื่อเป็นการระบายความคิดของผมออก เผื่อมีคนอื่นที่มีความเห็นตรงกันเขาอยากอ่าน โดยสมัครใจ และผมก็ไม่ได้ไปยัดเยียดให้ใคร เมื่อผมคิดได้ว่าผมจะต้องเขียนมันออกมา แต่ผมไม่มีทักษะเรื่องการ ทำเว็ป การเขียนบล็อก ผมจะต้องทำยังไง ผมก็เลยศึกษาหาความรู้ ด้านการทำบล็อกและการเขียน ด้วยการศึกษาผ่านสื่อออนไลน์ ด้วยการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้น เพื่อศึกษาสำนวนข้อความต่างๆ ที่นักเขียนเขาใช้ อย่างนี้เป็นต้นครับ
3.เริ่มสร้างคุณค่าให้ผู้คน โดยใช้ความถนัดที่ตัวเองมี เช่น เปิดเพจสอนทำอาหาร ทำขนม เป็นต้น
4.นำสิ่งที่ รักและถนัด มาเปลี่ยนเป็นเงิน อธิบายก่อน รัก และ ถนัด มีความต่างกันอยู่นะครับ บางอย่างเราอาจมีความรักแต่ไม่ถนัดที่จะทำ บางอย่างเรามีความถนัดแต่ไม่ได้รักมันก็มี แต่ถ้าเราสามารถนำเอาทั้งสองอย่างมารวมกันได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นคุณจะประสบความสำเร็จแน่นอนครับ เห็นได้จาก ตย.คนที่ประสบความสำเร็จหลายคน เขาทำในสิ่งที่ถนัดจนกลายเป็นความรักในที่สุด ไปศึกษาต่อดูได้ตาม YouTube ครับ เมื่อเริ่มมีคนติดตามก็สามารถ เปิดครอสสอน หรือ ทำเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาขาย
"อธิบายเพิ่มเติ่ม"
**เปลี่ยนเป็นเงินยังไง ยุคนี้เรียกว่าเป็นยุคที่เงินหาได้ง่ายมากๆ ครับเพียงแต่เราต้องรู้วิธีการเอามันมาใส่กระเป๋าเรา ยิ่งผมได้ศึกษาเรื่องธุรกิจเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้รู้ว่า มันมีเรื่องราวเกี่ยวกับการทำเงิน อีกมากมายที่เรายังไม่รู้ เงินมันลอยอยู่ในอากาศและมันจะวิ่งเข้ามาคนที่มี ทักษะ หรือ ความถนัดเฉพาะครับ ถ้าลองสังเกตุ ใน Facebook คุณจะเห็นอาชีพหนึ่งเกิดขึ้นและกำลังเป็นที่นิยม ในต้อนนี้ครับ มันคือ อาชีพเป็นโค้ช เปิดครอส สอนออนไลน์ จะเห็น คุณครู หลายท่าน ออกมา Live สอนกัน จนบางทีผมก็งง ไม่รู้จะฟังคนไหนดี เพราะครู เยอะจริงๆครับ ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นครูได้หมด ครับตอนนี้ ขอให้คุณมีทักษะและความเชี่ยวชาญในเรื่องที่คนมีปัญหาเถอะ รับรองขายได้
**ตย.ใช้ความถนัดเปลี่ยนเป็นเงิน
1.โค้ชสอนเรื่องต่างๆ เช่น สอนการตลาดออนไลน์ ,การทำอาหาร ,การเย็บปัก
2.งานรับจ้างอิสระ (ฟรีแลนซ์) เช่น ถ่ายภาพ ,เขียนบทความ,ทำกราฟฟิค ดีไซด์
3.เปิดเพจ เฟกบุ๊ค แก้ปัญหาให้คนอื่น ถ้าเพจมีคนติดตามเยอะ สามารถมีรายได้จากค่าโฆษณา จากคนที่เขามาจ้างคุณได้
4.เมื่อมีคนรู้จัก ก็สามารถต่อยอดไปทำธุรกิจอื่นได้
5.ลงทุนทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เช่น ขายของออนไลน์ ,ขายเครื่องสำอาง เสื้อผ้า หรือ ทำขนม ทำอาหาร ขายออนไลน์
6.ต่อยอดจากความรักความถนัด มาเป็นธุรกิจ 100 ล้าน, พันล้าน
ทุกขั้นตอนที่ผมกล่าวมา สำคัญที่สุด คือ คุณต้องกล้า ที่จะลงมือทำ อาจจะล้มบ้าง เจ็บบ้าง ไม่เป็นไร แต่ขอให้เริ่มต้นทำ ออกจากโซนปล่อยภัยของตัวเองให้ได้ เราอาจจะก้าวช้ากว่าคนอื่น ก็ไม่เป็นไร ผมชื่อว่า ความสำเร็จมีจริง และ ผมก็เชื่อว่าทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน
ขณะที่คุณกำลังอ่านบทความของผมอยู่ในตอนนี้ ผมอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จอะไร แต่ผมมีความเชื่อเสมอว่า ผมจะต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน อาจช้า 5 ปี 10 ปี ก็เป็นได้ แต่มันจะต้องสำเร็จ แล้วเราจะเจอกันเมื่อวันนั้นมาถึง พบกันที่ความสำเร็จนะครับทุกคน
"ขอให้ทุกคนมีความฝัน และพยายามทำความฝันให้มันเป็นความจริง นะครับ"
#ขอบคุณที่ติดตาม
#Pairoj13
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Wikipedia
ผลการค้นหา