วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2560

การอัพเดท Facebook และ การตั้งค่าการแจ้งเตือนบนมือถือ

วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560

ห้ามนั่งท้ายกระบะ ลดอุบัติเหตุได้จริงหรือ?

#โปรดอ่านให้จบ
      
     สวัสดีครับ..ท่านผู้อ่านทุกคน สิ่งที่เป็นข้อถกเถียงกันใน สังคมบ้านเราช่วงก่อนสงกรานต์นี้ ก็คงจะไม่มีอะไรร้อนแรงมากไปกว่า ประเด็นการบังคับใช้ กฎหมายของรัฐบาล คสช. เรื่อง กฎหมายขนส่ง โดยเฉพาะประเด็นของ การห้าม รถกระบะ บรรทุกผู้โดยสาร ทั้งด้านหลัง กระบะ และ ภายในแคป ซึ่งมีผู้คนแสดงความคิดเห็นคัดค้านและออกมาต่อต้านเป็นจำนวนมาก เพราะการบังคับใช้กฎหมายในครั้งนี้ส่งผลกระทบ โดยตรง กับผู้ที่ใช้รถกระบะเป็นพาหนะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจนและต้องใช้รถกระบะในการทำมาหาเลี้ยงชีพ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้รถกระบะ เหตุผลที่เลือกรถกระบะ ก็เพราะว่า มันเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากลาย ทั้งบรรทุกของ บรรทุกคน ไปไหนมาไหนได้ที่ละหลายคน ประหยัด ถ้าคุณเป็นคนที่มีรายได้น้อย การมีรถซักคันนั้นเป็นเรื่องยาก แต่มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี โดยเฉพาะกับคนที่อาศัยอยู่ตามชนบท ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดี ห่างไกลโรงพยาบาล เวลาเจ็บไข้ ได้ป่วย หนักๆ ไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลเองได้ ก็ต้องอาศัย เจ้ารถกระบะนี่เหละ พากันไป  หากคนที่อยู่ตามชนบทเหล่านี้จะซื้อรถมาใช้ประโยชน์ ถามว่า พวกเขาจะเลือกซื้อ รถแบบไหน รถเก๋ง ที่ใช้ประโยชน์ได้น้อย กับ รถกระบะที่ใช้ได้สารพัดประโยชน์ การจะมีรถทั้งที่เขาก็ต้องเลือกในสิ่งทีมันคุ้มค่า ใช้ประโยชน์ได้มาก และ ช่วยสร้างรายได้ให้ด้วยจริงมั้ย


ผมเองก็เช่นกัน ครอบครัวผมเป็นครอบครัวใหญ่ ทั้งของภรรยา และ ของผม รวมกัน มีอยุู่ 11 คน ที่บ้านมีรถอยู่ 2 คัน 1 คันเป็นรถกระบะเก่าๆ เอาไว้ใช้งานในสวนในไร่ ออกไปไหนไม่ได้ อีก 1 คัน ก็คือรถกระบะของผม ซึ่งเวลาจะไปไหนมาไหนก็ต้องไปกันเป็นครอบครัว อย่างน้อย ก็ 4 คน มีผม ภรรยา และลูกอีก 2 คน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถผมก็คิดตรึกตรองมาแล้วว่าจะซื้อรถทั้งที่จะเลือกแบบไหนดี ที่มันใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด   ก็ตกลงใจกับภรรยาว่า เอารถกระบะดีกว่าใช้ประโยชน์ได้เยอะดี จึงตัดสินใจซื้อด้วยการผ่อนชำระ นาน   5 ปีกว่าจะผ่อนหมด ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน เพราะผมเองก็เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายอะไร ต้องบริหารจัดการจนสามารถผ่อนได้หมด เมื่อปีที่แล้วนี่เอง

พอมาปีนี้ รัฐบาลประกาศบังคับใช้กฎหมายขนส่ง อย่างจริงจัง เรื่อง เข็มขัดนิรภัย เรื่องรถกระบะ ซึ่งเป็นกฎหมายเดิมที่มีมานานแล้วตั้งแต่ปี 2522 (ปีผมเกิดพอดี 38 ปี) โดยอ้างเหตุผล เรื่องความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งดูเหมือนจะดีถ้ามองในมุมของรัฐบาล แต่ในความเป็นจริงแล้ว กฎหมายฉบับนี้มันกลับสร้างผลกระทบ สร้างความเดือดร้อนให้กับ ประชาชน คนหาเช้ากินค่ำที่มีรายได้น้อย  ที่ต้องทำมาหากินเลี้ยงปากท้อง โดยตรง ซึ่งกว่าพวกเขาจะได้รถกระบะมาไว้ใช้ทำมาหากินเพื่อเลี้ยงชีพ สักคันหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย บางคนต้องเหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็นกว่าจะได้มา แต่กลับใช้ประโยชน์ไม่ได้ตามที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะ จู่ๆ รัฐบาลก็มาประกาศบังคับ ห้ามไม่ให้ใช้ในแบบที่เคยใช้กันมานาน โดยที่ไม่ได้ปรึกษาหารือ หรือ ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ที่จะได้รับ และรับฟังความเห็นของประชาชน เสียก่อน

หากต้องการลดอุบัติเหตุลง ผมว่ามันน่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ เช่น การจำกัดความเร็ว การเข้มงวด เรื่องการดื่มสุราของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก ในการทำให้เกิดอุบัติเหตุ การออกใบอนุญาตขับขี่ แบบเข้มงวด รายบุคคล ดูแล้วน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า ที่ผ่านมาสถิติคนที่ตกรถกระบะตาย โดยตรงแทบจะไม่มี ถ้าไม่ถุกเฉี่ยวชน ก็ คนขับประมาท ดังนั้น สาเหตุการเกิดอุบัติ การตาย หลักๆ แล้ว ก็คงไม่ได้มาจาก การนั่งท้ายกระบะหรือในแคป หากต้องการจะเปลี่ยนผมว่าเปลี่ยนที่ตัวกฎหมายน่าจะดีกว่า ให้มันสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทยที่เคยปฏิบัติกันมา เหมือนกับที่รัฐบาลเคยพูดไว้มาตลอดว่า "คนไทยต้องอยู่แบบไทย อย่าใช้วิถีชีวิตของชาติอื่นมาเป็นข้ออ้าง" คนไหนอยู่ไม่ได้ก็ให้ย้ายออกจากประเทศไป" สถานการณ์นี้ก็เช่นกัน รัฐบาลเองก็ควรจะปรับเปลี่ยนแก้ไขกฎหมายให้ตรงตามวิถีชีวิตของคนไทยด้วย และ ได้โปรดรับฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ที่มีความเดือดร้อนด้วย อย่าใช้คำว่า ประเทศต่างๆ เขาก็ใช้กันแบบนี้ ซึ่งมันก็ไม่ต่างกับการ "ถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า" สุดท้าย ก็ตกมาใส่หน้าตัวเอง

ผมเชื่อว่า ประเทศไทย มีเรื่องที่ต้องแก้ไข อีกเยอะแยะมากมาย ที่ต้องให้ความสำคัญอันดับแรกเลย
ก็คือ  ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ น้ำ ไฟฟ้า ถนน ระบบขนส่งมวลชน รายได้ อาชีพ 2.คือปัญหา คอร์รัปชั่น การโกงกินต่างๆ 3.คือการมุ่งเน้นพัฒนาด้านการศึกษา ซึ่ง บางอย่างอาจทำไปแล้วบ้าง แต่ก็ยังไม่เห็นผลชัดเจน ต้องพยายามให้มันเหตุผลเป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่าเดิม  ดีกว่า มานั่งไล่จับ    ไล่ปรับ เอากับคนที่ไม่มีอันจะกินแบบนี้   มันจะพาลสร้างปัญหาให้มากขึ้นกว่าเดิม มากกว่าจะมาแก้ปัญหาให้ลดลง

#โดยภาพรวมผมชื่นชม รัฐบาลชุดนี้นะครับ ที่เข้ามาแก้ปัญหาต่างๆในประเทศให้ดีขึ้น แต่สำหรับเรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ ผมเองเป็นทั้งคนของรัฐ และ เป็นทั้ง ประชาชนคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตไปตามประสาคนชนบท และกำลังมีความเดือดร้อนในสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ อยากให้รัฐช่วยมองลงมาถึงคนที่กำลังถูกผลกระทบ จากกฎหมาย อย่างพวกเราด้วย ไม่ใช้นึกอยากประกาศก็ประกาศ ให้มาสัมผัสกับความจริงเสียก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป 

#ขอบคุณที่รับฟัง
#Pairoj13

Wikipedia

ผลการค้นหา