วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แก่นพระพุทธศาสนา

        สวัสดีครับ ท่านผู้อ่าน หากใครได้ติดตามข่าวสารในบ้านเรา ช่วงนี้่สิ่งที่เป็นประเด็น มากที่สุดในสังคมไทย คงหนี้ไม่พ้น เรื่องของ  ทางด้าน ศาสนา ที่เกี่ยวกับ  วัดแห่งหนึ่ง  ที่จริงจะว่าเกี่่ยวข้องกับศาสนา ด้วยตรง ก็คงจะไม่เชิงนัก เพราะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวบุคคล มากกว่า บังเอิญว่าบุคคลนั้น เป็นที่เคารพนับถือของ คนในพระพุทธศาสนา เรื่องราวรายละเอียดเป็นยังไง ก็ให้ทุกท่านไปติดตามกันเอาเอง นะครับ ผมจะไม่ขอกล่าวถึง เพราะมันเป็นเรื่องที่ล่อแหลมและสุ่มเสี่ยง อยู่ไม่น้อย สิ่งที่ผมต้องการจะนำเสนอในบทความนี้ จะเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ และ แก่นของศาสนา ที่แท้จริง ที่ องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงอยากให้เป็น และดำเนินไป

     
       ย้อนกลับไปก่อนพุทธกาล มีเจ้าชายหนุ่ม องค์หนึ่งถือกำเนิดเกิดขึ้นมายังโลกมนุษย์ เมื่อยามเยาว์วัย ก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ในวัง พอโตขึ้นได้ออกไปเห็นและเผชิญ กับความจริงในโลกกว้าง ได้เห็นและได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย จนได้เจอกับ วัฎสงสารทั้ง 4 อันได้แก่ การเกิด  การแก่  การเจ็บ และ การตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ พระองค์ ไม่เคยได้เห็นตอนที่อยู่ในวัง หลังจากได้สัมผัสโลกภายนอก ก็เกิดความสงสัยและคุ้นคิด อยู่ตลอดเวลา จนทำให้จิตใจเป็นทุกข์ ไม่มีความสงบ ไม่มีความสุขใดเลย ทั้งๆ ที่อยู่ในสถานที่แสนสะดวกสบาย รายล้อมด้วยบริวารรับใช้ จึงตัดสินใจละทิ้งทุกสิ่ง เพื่อไปแสวงหาคำตอบ ว่าทำไม มนุษย์จึงต้องมีความสูญเสีย ต้องมีแต่ความทุกข์ ช่วงที่ค้นหาคำตอบให้ตัวเองอยู่นั้น ก็ได้ใช้แนวทาง ต่างๆนาๆ ทั้งการทรมานร่างกาย ทรมานจิตใจ แต่ทุกอย่างก็ไม่ใช้ คำตอบที่พระองค์แสวงหา จึงเปลี่ยนแนวทาง มาทำอะไรที่พอประมาณ ที่เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา  หรือ ทางสายกลาง   คือ ความไม่สุดโต่ง และ ไม่หย่อน จนเกินไป ทันใดนั้น ก็พลันสว่างโพร่งขึ้นในความคิด และหาคำตอบให้กับพระองค์เองได้ในที่สุด



**แนวทางที่พระพุทธองค์ ทรงค้นพบนั้น ก็คือ แก่นแท้ของศาสนาพระพุทธศาสนา ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายที่สุดนั้น  ก็คือ "การปล่อยวางจากทุกสิ่ง ไม่ยึดติด กับสิ่งใดเลย"  นั้นเอง 



แต่ด้วยความที่พระองค์ทรงเป็นผู้ตื่นแล้ว จึงรู้และเข้าใจ ว่ามนุษย์ทั่วไป คงจะเดินตามแนวทางที่ท่านค้นพบได้ยาก เพราะมนุษย์นั้นมี กิเลส มากเหลือเกิน จึงได้บัญญัติ คำสอน ที่จะทำให้โลกมนุษย์ ไม่สับสนวุ่นวายจนเกินไป ให้ทุกอย่างพอเหมาะพอควร เอาไว้มากมาย อันนี้ก็ไปศึกษาเพิ่มเติมกันเอาเองนะครับว่ามีอะไรบ้าง

หลักธรรมที่ท่าน ได้สอนนั้น แบ่งได้อยู่ 2 กลุ่มใหญ่  อันนี้ผมสรุปเองนะครับ

กลุ่มที่ 1: คือ หลักธรรมที่สอนให้กับ คนธรรมดา เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ให้เกิดความสุข หรือ ให้มีความทุกข์ น้อยที่สุด

กลุ่มที่ 2: คือ หลักธรรมที่สอนให้กับ กลุ่มคนที่ต้องการจะหลุดพ้น จาก กิเลสทั้งปวง เพื่อนำไปสู่ความว่างเปล่า หรือ นิพพาน ผู้ที่มีความตั้งใจจริง (กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ผมจะเน้นในบทความนี้)


*********************************************************************************
จากข่าวที่ปรากฎ ข้างต้น ทำให้ภาพลักษณ์ของ ศาสนาพุทธมีความด่างพร้อย อยู่ไม่น้อย เพราะกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า นักบวช เป็นกลุ่มคนที่อาสาเข้ามา นำพระธรรมคำสอน ที่ถูกต้องของพระพุทธองค์ ไปเผยแผ่ และชี้ทางสว่างให้กับ คนทั่วไป เพื่อละจาก กิเลส นั้น กลับเป็นผู้ที่ ยึดติดกับ กิเลสเสียเอง ปากก็อ้างว่าทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา แต่การกระทำหาได้ปกป้องศาสนาไม่ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่มีกลุ่มคน ที่อ้างตัวเองว่านักบวช เหล่านี้ ออกมาเคลื่อนไหวในทางโลก ซึ่งถือว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดเลย กับการเผยแผ่ พระธรรมคำสอน สิ่งที่คนกลุ่มนี้ พึ่งกระทำนั้น ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดี น่าเลื่อมใสศรัทธา ให้กับผู้ที่ต้องการปฏิบัตตามแนวทาง พระพุทธศาสนา มากกว่า คือ การยึดหลักพระธรรมวินัย ซึ่งแบ่งได้ 2 ลักษณะ  คือ

1.) พุทธบัญญัติ  หรือ ข้อห้ามทั้งปวง ที่ห้ามมิให้กระทำโดยเด็ดขาด

2.) อภิสมาจาร  หรือ ข้อควรปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความเลื่อมใส ศรัทธา ความน่าเชื่อถือ การปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการสำรวมทางร่างกาย

เมื่อทั้ง 2 ลักษณะมารวมกัน ก็คือ  ศีลทั้ง 227 ข้อ ที่พระสงฆ์ นักบวช ต้องกระทำ ถามว่า กลุ่มคนที่ถือว่าตัวเองเป็น นักบวช เหล่านี้ ได้ปฏิบัติกันครบ รึยัง ก่อนที่จะออกมาบอกว่า "ปกป้องพระพุทธศาสนา"
ควรทำตัวเองให้ได้เสียก่อน เหมือนคำกล่าว ที่ว่า  "แบบอย่างที่ดี....มีค่ามากกว่าคำสอน" อย่าใช้  ศาสนามาเป็นข้ออ้าง เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับตัวเอง เลย แนวทางที่พระพุทธองค์ ทรงชี้ให้นั้นถูกต้องแล้ว อย่าบิดเบือน ให้ ศาสนาต้องมัวหมอง เพราะความลุ่มหลง และ พลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นเลย 

ประเทศไทย ขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองของพระพุทธศาสนา แต่ที่สิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน นั้น ยังห่างไกล จากคำว่า พุทธ (ผู้ตื่น)  อยู่มาก ดังนั้น พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน ทำนุบำรุง พระพุทธศาสนา ให้คงอยู่ และ เป็นไปตามแนวทาง ที่ถูกต้อง ตาม แก่นแท้ของ พุทธศาสนา เพื่อแผ่นดินผืนนี้จะได้สูงขึ้นกว่าที่เป็น 

#ขอบคุณที่ติดตาม
#Pairoj13    


  

ไม่มีความคิดเห็น:

Wikipedia

ผลการค้นหา