วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

นานาสาระ: มือถือ

นานาสาระ: มือถือ:      นานาสาระ วันนี้ก็ขอเอาเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด มาให้ความรู้กับผู้สนใจนะครับ เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่เรียกในยุคนี้ถ้าใครไม่มีคงจะแปลกมากๆ ถ...

มือถือ

     นานาสาระ วันนี้ก็ขอเอาเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด มาให้ความรู้กับผู้สนใจนะครับ เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่เรียกในยุคนี้ถ้าใครไม่มีคงจะแปลกมากๆ ถือได้ว่าเป็นของสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในปัจจุบัน มันแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเราไปเลย มันก็คือ เจ้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่เราเรียกง่ายๆว่า "มือถือ" นั่นเองครับ วิวัฒนาการ ของมันเติบโตขึ้นเรื่อย นับตั้งแต่มีมาใช้ในสมัยก่อน ในตอนนั้นผู้ที่มีสิทธิ์ที่ครอบครองมันได้ มีแต่พวกที่มีอันจะกินทั้งนั้น เพราะราคาค่อนข้างแพงมาก คนหาเช้ากินค่ำอย่างเราๆท่านๆ คงไม่สามารถ และมิบังอาจไปแตะต้อง ต่างจากปัจจุบันนี้มาก ซึ่งแม้แต่เด็กนักเรียนประถมยังมีใช้กันแล้ว เมื่อเวลาเปลี่ยนยุคสมัยมันก็เปลี่ยนตามไป เรามาลองดูจุดเริ่มต้นของ มือถือ กันว่ามันเป็นมายังไง
                                         
โทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ (และมีการเรียก วิทยุโทรศัพท์) คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการสื่อสารสองทางผ่าน โทรศัพท์มือถือใช้คลื่นวิทยุในการติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยผ่านสถานีฐาน โดยเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือแต่ละผู้ให้บริการจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายของโทรศัพท์บ้านและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการอื่น 
โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรก ถูกผลิตและออกแสดงในปี พ.ศ. 2516 โดย มาร์ติน คูเปอร์ (Martin Cooper) นักประดิษฐ์จากบริษัทโมโตโรลา เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 1.1 กิโลกรัม

วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ

  • 1G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ analog ให้บริการเสียงอย่างเดียว ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น NMTAMPS, DataTac เริ่มใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ.1980
  • 2G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น GSMcdmaOnePDC ให้บริการทั้งเสียงและข้อมูล มีการทำงานแบบ circuit switching ที่ความเร็ว 9.6-14.4 kbps
    • 2.5G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ที่เริ่มนำระบบ packet switching มาใช้ ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น GPRS ความเร็ว 20-40 kbps
    • 2.75G ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น CDMA2000 1xRTTEDGE ให้ความเร็วน้อยกว่า 100 kbps
  • 3G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ที่มีความสามารถครบทั้งการสื่อสารด้วยเสียงและข้อมูลรวมถึงวิดีโอ ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น W-CDMATD-SCDMACDMA2000 1x-EVDO ความเร็ว มากกว่า 144 kbps
  • 3.5G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงขึ้นกว่า 3G เช่น HSDPA ใน W-CDMA
  • 4G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ Real-Digital สามารถเชื่อมต่อข้อมูล 3 แบบ ภาคพื้นดิน CDMA PA-H และการเชื่อมต่อ ewifi และ Wi-Max เพื่อการเชื่อมภาพและเสียงเป็นข้อมูลเดียวกัน

ระบบปฏิบัติการมือถือ


ความเชื่อที่ว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาวนั้น ปัจจุบันได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลกแล้ว โดยองค์การฯ ได้บรรจุโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้ในรายชื่อวัตถุก่อมะเร็งซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ออกรายงานเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554โดยจัดว่ารังสีโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็น "วัตถุก่อมะเร็ง" และ "อาจก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์" ได้ รายงานดังกล่าวออกมาหลังจากทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ทบทวนการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยของโทรศัพท์เคลื่อนที่ งานวิจัยหนึ่งว่าด้วยการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในอดีตนั้นได้ถูกอ้างอิงในรายงานซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างหนักจะมีความเสี่ยงเป็นเนื้องอกในสมองมากขึ้นถึง 40% (รายงานการใช้โดยเฉลี่ย 30 นาทีต่อวัน เป็นเวลาติดต่อกันนานกว่า 10 ปี)ซึ่งรายงานดังกล่าวตรงกันข้ามกับการสรุปก่อนหน้านี้ซึ่งไม่คาดว่ามะเร็งจะเกิดขึ้นเป็นผลมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือสถานีฐาน และการทบทวนดังกล่าวไม่ได้พบหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่นแต่อย่างใด

ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ

แคนาดา
จีน
  • Amoi Mobile Phones
  • Amoisonic
  • BBK
  • Capitel
  • Cect
  • Cosun
  • Club
  • Eastcom
  • Haier
  • หัวเว่ย
  • Kejian
  • Konka
  • Legend mobile phones
  • Lenovo
  • Meizu
  • Ningbo Bird
  • ZTE
  • oppo
  • Xiaomi
ฟินแลนด์
ฝรั่งเศส
อินเดีย
  • Micromax
  • Spice
  • Videocon
  • Onida
  •  !Next
  • Intex
  • C-Tel
  • Sigmatel
  • Usha Lexus
  • Lemon mobile
  • zen mobile
  • Maxx mobile
  • Karbonn mobile
  • LAVA mobile
อิสราเอล
  • Modu
  • Emblaze
  • IXI Mobile
อิตาลี
  • Brionvega
  • Onda
  • Telit
ญี่ปุ่น
มาเลเซีย
บริษัทโนเกียประสบความสำเร็จอย่างมากในผลิตและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ในช่วงปี 40-45 
โดยรุ่นที่ได้รับควมนิยมสูงสุดของ NOKIA คงจะหนีไม่พ้น รุ่น 3310 , 3315 ซึ่งเป็นรุ่นยอดฮิตในสมัยนั้นจริงๆ
ผมเองก็เป็นแฟนตัวยงของสองรุ่นนี้ ไม่ว่าเราจะทำกับมันยังไง ขวาง หรือตก ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับมัน
เลย 
โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนอกจากจากความสามารถพื้นฐานของโทรศัพท์แล้ว ยังมีคุณสมบัติพื้นฐาน
ของโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นมา เช่น การส่งข้อความสั้นเอสเอ็มเอส ปฏิทิน นาฬิกาปลุก ตารางนัดหมาย
เกม การใช้งานอินเทอร์เน็ต บลูทูธ อินฟราเรด กล้องถ่ายภาพ เอ็มเอ็มเอส วิทยุ เครื่องเล่นเพลง และ จีพีเอส
 รวมไปถึงความสามารถที่คล้ายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกกันว่า สมาร์ตโฟน ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกซื้อกัน
หลายต่อหลายยี่ห้อ แต่ที่มียอดขายต่อรุ่นมากที่สุด ก็คงจะเป็น iphone รองลงมาก็ Sumsung ที่มีรุ่นมากมาย
เหลือเกินจนจำไม่ได้เลย 
               
 ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2543 ที่มีจำนวน 12.4 ล้านคน 
มาเป็น 4,600 ล้านคน คร่าวๆ ก็คงจะมีเพียงเท่านี้ ส่วนใครที่พอมีกะตั้งอยากจะได้รุ่นไหนก็สามารถ
ไปเลือกได้ ตามร้านต่างๆกันเอาเอง ตามรายได้ ตามความเหมาะสม แต่ถ้าลืมว่าการมีโทรศัพท์แพงๆ 
มันได้ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้น ขอบคุณที่ติดตาม

ท้ายสุดก็เช่นเดิม ไม่รู้ว่าแฟนใคร

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สิ่งมหัศจรรย์

         ในโลกใบนี้มีสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้มากมาย บางอย่างเป็นเรื่องธรรมดา บางอย่างเป็นเรื่องที่ลึกลับซับซ้อน หรือ บางเรื่องที่เกิดอาจเป็นสิ่งที่เรียกว่ามหัศจรรย์ เป็นปรากฎการณ์ ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของที่มีผู้คนรู้จักมาก จนเรียกว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ของโลก ซึ่งในปัจจุบัน หรือในยุคใหม่นี้ ก็มีด้วยกันอยู่ 7 สิ่ง
ได้แก่
 1.เมืองซีเชน อิตซา เขตยูคาทาน เม็กซิโก (Chichen Itza)



 2.รูปปั้นพระเยซูคริสต์ บนยอดเขาเมืองริโอ เดอ จานิโร บราซิล (Christ Redeemer)  



 3.สนามโคลอสเซียม กรุงโรม อิตาเลียน (Colosseum)

 

 4.กำแพงเมืองจีน (Great Wall)

 

 5.เปตรา" เมืองนครหินสีชมพู จอร์แดน




 6.เมืองสาบสูญแห่งอินคา "มาชูปิกชู" เปรู (Machu Picchu)






7.ทัชมาฮาล เมืองอักรา อินเดีย (Tal Mahal)





แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช้เรื่องที่เราจะพูดถึงในวันนี้ สิ่งมหัศจรรย์ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยมีมานั้นไม่ใช่อยู่ที่สถานที่พวกนี้ แต่มันอยู่ในตัวเรา หลายคนคงจะไม่เคยเห็นมัน  ตัวผมเองก็เช่นกัน ไม่เคยเห็นและไม่เคยได้สัมผัสเลย สิ่งมหัศจรรย์ที่ผมว่านี้ มันก็คือ สมองของเรานั้นเอง มนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุด เพราะมนุษย์มีสมองที่ใหญ่โตมโหฬารมาก แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่ขนาดทีใหญ่ของมัน แต่เป็นความสามารถของมันต่างหาก สิงมหัศจรรย์ทั้ง 7 ที่กล่าวแล้วขั้นต้นนั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าไม่ใช่มาจากสมองของมนุษย์ มนุษย์เราสร้างสิ่งเหลือเชื่อเหล่านี้ได้อย่างไร ถ้าเป็นในยุคปัจจุบันคงจะไม่ยากนัก เพราะมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ในยุคโบราณนั้นไม่มีเหมือนตอนนี้ แล้วพวกเขาสร้างมันได้อย่างไร เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ กระบวนการคิดและประมวลผลของสมองเรานั้น มีความสลับซับซ้อน (ซ่อนเงื้อน ) มากๆ แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ ที่ศึกษาวิจัยด้านสมองโดยเฉพาะ ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ สมองของเรามีหน่วยความจำและประมวลผล มากกว่า mainframe computer ใหญ่ๆ หลายเครื่องรวมกันซะอีก



 vs




มาดูส่วนประกอบสมองกัน






การทำงานของสมอง
 

 
       คงจะเห็นกันแล้วครับว่าสมองของเรามีความมหัศจรรย์แค่ไหน บทความนี้ผมอาจจะนำท่านผู้อ่านกลับไปเป็นนักเรียนมัธยมอีกครั้งนะครับ เพื่อเรียนรู้เรื่องของชีวะวิทยา และกายวิภาค หลังจากอ่านบทความนี้แล้วก็ลองไปคิดเล่นๆ (หรือจะคิดจริงๆ) ดูนะครับว่า เราได้พัฒนาสมองเขาเราที่มีอยู่ถึงขีดสุดแล้วหรือยัง ถ้าคำตอบคือยังได้ไม่ถึงแม้แต่เสี้ยวเดียวของมัน ก็ต้องรีบกลับไปพัฒนาได้แล้ว เปรียบเทียบกับเมื่อตอนเราเล่นเกมในเฟกบุ๊คหรือทางออนไลน์ต่างๆ เราก็อยากจะได้ level ที่สูงๆ คิดจะทำอะไรก็ทำได้เต็มที่คะแนะก็ได้เยอะกว่าคนที่ level ต่ำ  ย้อนกลับมาที่ตัวเรา ถ้าเราคิดว่าเราเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีความสามารถ ทำอะไรก็ไม่เป็น ไม่ได้ แพ้ไปซะทุกเรื่อง นั่นไม่ใช่เพราะเราด้อยกว่าหรือเราโง่กว่าคนอื่นเขาหรอกครับ แต่เป็นเพียงเพราะเราไม่รู้ศักยภาพของตัวเองเท่านั้น เพราะฉนั้นจงรีบค้นหาศักยภาพในตัวคุณออกมาให้ได้ ผมเชื่อว่าทุกคนมีสิ่งนี้อยู่ในตัว  " change your mind  change you life" ขอบคุณที่ติดตามครับ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับ

ฝากเพลงไปฟังกันครับ ชีวิตเราอยู่ที่เราเลือกที่จะเป็นอะไร???

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ลูกฟุตบอลที่ใช้ในบอลโลก

       โรคระบาดฟุตบอลโลกทำให้ใครหลายคนไม่ได้นอนเต็มที่ อาจจะเกิดอาการง่วงหงาวหาวนอนเกิดขึ้น หลายคนอาจจะผิดหวังที่ทีมตัวเองต้องตกรอบก่อนเวลาอันควร ฟุตบอลโลกเริ่มการแข่งขันกันมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1930 จากที่เคยได้อ่านกันมาแล้วในเรื่องของประวัติฟุตบอลโลก นับได้ว่ากีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุด เหนือกว่ากีฬาไดๆที่มีโลกนี้ ในการจัดการแข่งขันทุกครั้งก็จะมีสัตว์สัญลักษณ์ หรือเรียกว่า มาสคอต และ ลูกฟุตบอลที่ทำขึ้นโดยเฉพาะ โดยจะมีชื่อเรียกในการแข่งขันแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน ลองมาดูกันว่า มาสคอต และ ลูกฟุตบอลเหล่านั้นมันเรียกว่าอะไรบ้าง
มาสคอต หรือ ตัวนำโชค เริ่มใช้ครั้งแรก ในฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพในปี ค.ศ.1966

 อังกฤษ ปี 1966 : World Cup Willie


เม็กซิโก ปี 1970: Juanito




เยอรมันตะวันตก ปี 1974: Tip กับ Tap

เยอรมันตะวันตก ปี 1974: Tip กับ Tap

อาร์เจนตินา ปี 1978: Gauchito


สเปน ปี 1982: Naranjito



เม็กซิโก ปี 1986: Pique




อิตาลี ปี 1990: Ciao


สหรัฐอเมริกา ปี 1994: Striker




ฝรั่งเศส ปี 1998: Footix



เกาหลีใต้/ญี่ปุ่น ปี 2002: Nik, Ato และ Kaz




เยอรมัน ปี 2006: Goleo VI กับลูกฟุตบอลเพื่อนคู่ใจ



แอฟริกาใต้ ปี 2010: Zakumi


บราซิล ปี 2014: Fuleco


ต่อไปเรามาดูลูกฟุตบอลที่ใช้บ้าง 

ลูกฟุตบอลโลกปี 1930 ที่ประเทศอุรุกวัย



ลูกฟุตบอลใช้ในฟุตบอลโลกปี 1934 ที่ประเทศอิตาลี



ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 1938 ที่ประเทศฝรั่งเศส



ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 1950 ที่ประเทศบราซิล (ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2)



ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1954 ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์




ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1958 ที่ประเทศสวีเดน


ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1962 ที่ประเทศชิลี



ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 1966 ที่ประเทศอังกฤษ


Telstar  
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1970 ที่ประเทศเม็กซิโก และเป็นครั้งแรกที่อาดิดาส (Adidas) ได้รับความไว้วางใจให้เป็นลูกฟุตบอลในการแข่งขันฟุตบอลโลก และเป็นครั้งแรกที่ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นแบบ Buckminster (เป็นลายตาราง 5 เหลี่ยมเย็บติดกัน รวม 32 ชิ้น) และที่เลือกใช้สีดำสลับขาว เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในการถ่ายทอดทางทีวี(ขาวดำ) และฟุตบอลโลกครั้งนี้ก็ยังเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดทางทีวีเป็นครั้งแรก




Telstar durlast 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1974 จัดที่เยอรมันตะวันตก ลูกฟุตบอลที่ใช้ก็เหมือนในฟุตบอลโลกในปี 1970 เพียงแต่มีการปรับปรุงรูปโฉม คือจากข้อความ สีทอง เปลี่ยนเป็นสีดำ ข้อความ 1970 เปลี่ยนเป็น 1974 ส่วนลูกบอลสีขาวล้วน กับ ขาวสลับดำนั้นทั้งวัสดุ และเทคโนโลยีการผลิตเหมือนกันทุกประการ แต่การที่ใช้สีขาวล้วนนี้มีชื่อว่า Adidas Chile เพื่อเป็นการรำลึกถึงลูกฟุตบอลสีขาวล้วนที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1962 ที่ประเทศชิลี


      

Tango 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลก 1978 ที่ประเทศอาร์เจนติน่า โดย อาดิดาสได้ออกแบบลูกฟุตบอลนี้เพื่อให้เป็นมาตรฐานสำหรับลูกฟุตบอลไปอีก 20 ปีข้างหน้า และมันก็ยังเป็นลูกฟุตบอลที่แพงที่สุดในโลก ในสมัยนั้นด้วยราคาลูกละ 50 ปอร์นรวมภาษี




Tango Espana 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลก 1982 ที่ประเทศสเปน มีความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจาก 1978 คือมีการซีลด้วยยางบริเวณตะเข็บที่เย็บลูกฟุตบอลติดกัน 
เพื่อกันน้ำ




Azteca 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก เป็นลูกฟุตบอลลูกแรกที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ ภายนอกเคลือบทับด้วย Polyurethaneทำให้กันน้ำได้ในระดับหนึ่ง ลวดลายก็อิงมาจากชาว Aztecs




Etrusco Unico 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 1990 ที่ประเทศอิตาลี ลูกฟุตบอลทำจากวัสดุสังเคราะห์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ลูกบอล ลูกนี้กันน้ำได้โดยสมบูรณ์ และลวดลาย เป็นลวดลายที่อิงประวัติศาสตร์ของ อิตาลีในยุค Etruscan




Questra 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 1994 นับเป็นครั้งแรกที่ลูกฟุตบอลที่สร้างด้วยโฟม Polyurethane ซึ่งทำให้สัมผัสที่นุ่ม และง่ายต่อการควบคุมลูกบอลโดยวัสดุนี้ก็มาจากชุดนักบินอวกาศนั้นเอง ดูลายดีๆ จะเห็นว่ามันเป็นรูป อวกาศ มีดาวส่องแสงเต็มไปหมด




Tricooloer 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 1998 จัดที่ประเทศฝรั่งเศล นับว่าเป็นครั้งแรกที่ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ในส่วนลวดลายมีสีอื่นนอกจากสีดำ โดยสีทั้งสามสีอันได้แก่ สีน้ำเงิน สีแดง และสีขาว นั้นมาจากสีของธงชาติฝรั่งเศลนั้นเอง




Fevernova 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 2002 และถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศในเอเซียได้จัดฟุตบอลโลก และยังเป็นครั้งแรกที่การจัดฟุตบอลโลก มีเจ้าภาพร่วมกันระหว่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ลูกฟุตบอลมีชื่อว่า Fevernova ภาพกราฟฟิกที่ปรากฏเป็นรูปของดาวกระจายสีทอง กับเปลวเพลิงสีแดง ที่หลอมรวมกัน แทนเกาหลี กับ ญี่ปุ่น ที่ร่วมกันจัด มหกรรมฟุตบอลโลกในครั้งนี้




Teamgeist 
คือ ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 2006 ที่ประเทศเยอรมัน กรุงเบอร์ลิน โดยชื่อนี้ เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า จิตวิญญาณของทีม(team spirit)




Jabulani 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ จาบูลานี่ (Jabulani) มีความหมายว่า ความสุข และ การเฉลิมฉลอง ในภาษา ซูลู และ จาบูลานี่ ถือเป็น ลูกฟุตบอลที่กลมที่สุดในโลก ขณะนี้ (2010) โดยบริษัทที่ผลิตคือ อาดิดาส (Adidas)




Adidas Brazuca 
ลูกฟุตบอลที่ใช้ในฟุตบอลโลกปี 2014 ที่ประเทศบราซิล   คำว่า "บราซูก้า" เป็นคำที่ชาวบราซิลใช้แสดงความภูมิใจในวิถีชีวิตของพวกเขา และยังเป็นคำที่ให้ความรู้สึกถึงความสนุกสนาน ซาบซึ้ง และความปรารถนาดีไปพร้อม ๆ กัน



   
              คงได้รู้กันแล้วนะครับว่ามันมีชื่อว่าอะไรบ้าง สุดท้ายขอให้ดูบอลอย่างมีความสุข และอย่าลืมพักผ่อน และ รักษาสุขภาพด้วยครับ ด้วยความห่วงใยจากผม

             

Wikipedia

ผลการค้นหา